การสื่อสารอาจเกิดขึ้นได้ในบริบทที่ต่างกัน คำว่า บริบท ในที่นี้ หมายถึง สถานที่ บุคคล และโอกาส จะเห็นได้ว่า คุณธรรมและมารยาทมีความสำคัญต่อการสื่อสารในบริบทต่างๆ ซึ่งมีดังนี้
การสื่อสารในครอบครัว
๑. สมาชิกในครอบครัว ต้องคำนึงว่า แต่ละคนอาจจะมีประสบการณ์มาไม่เหมือนกัน ทำให้คำพูดที่สื่อสารระหว่างบุตรกับบิดามารดาหรือผู้ปกครอง อาจทำให้มีความไม่เข้าใจเกิดขึ้นได้ จึงต้องมีการอธิบายเพื่อให้เกิดความเข้าใจ และสมาชิกในครอบครัวต้องมีความตั้งใจดีต่อกัน ยอมรับซึ่งกันและกันและใช้เหตุผลพูดกัน
๒. การสื่อสารในครอบครัว ถึงแม้ว่าจะเป็นการสื่อสารอย่างเป็นกันเอง แต่ก็ต้องระมัดระวังการใช่ข้อความบางอย่างที่อาจทำให้เกิดความขัดข้องหมองใจกัน หรือเข้าใจไม่ตรงกัน เพราะจะทำให้เกิดปัญหาในครอบครัวก็ได้
๓. คนในครอบครัวควร แลกเปลี่ยนประสบการณ์ซึ่งกันและกัน เพราะคำบางคำในแต่ละสมัยสื่อความหมายไม่เหมือนกันเช่น ชื่อเรียกของสีผู้ใหญ่มักจะเรียกสีส้ม ว่าสีแสด คำที่ขึ้นอยู่กับยุคสมัยเหล่านี้อาจจะทำให้เกิดความขุ่นข้องหมองใจกันระหว่างบุคคลในครอบครัวที่มีอายุต่างวัยกัน จึงจำเป็นที่คนในครอบครัวควรเรียนรู้คำที่ใช้สื่อสารกันในยุคสมัยของแต่ละคน
๔. การสื่อสารในครอบครัว ควรคำนึงถึงมารยาทที่ดีในการพูดซึ่งกันและกัน เพราะจะทำให้มารยาทเหล่านี้ติดตามไปในการพูดในกาลเทศะต่างๆ เช่น ไม่พูดข่ามศีรษะผู้อื่น ไม่ควรตะโกนพูดกัน และไม่แย่งกันพูดเป็นต้น
การสื่อสารในโรงเรียน
๑. การสื่อสารในโรงเรียน อาจใช้เวลานาน เพราะเรื่องราวที่ใช้สื่อสารอาจจะมีปริมาณมาก ผู้ส่งสารจึงจำเป็นต้องบอกผู้รับสารว่าจะใช้เวลามากแค่ไหน และพูดอย่างไรเรื่องอะไรบ้าง ผู้ส่งสารควรรักษาเวลา และพูดไม่พูดนอกเรื่อง ควรพูดในขอบเขตของเรื่องที่จะพูด ส่วนผู้รับสารควรตั้งใจและอดทนฟัง รวมถึงต้องให้เกียรติผู้พูดด้วยเช่น การลุกออกจากที่ประชุมเมื่อมีกิจธุระควรขออนุญาตและทำความเคารพผู้ส่งสารซึ่งเป็นมารยาทที่ควรปฏิบัติต่อผู้เข้าประชุม
๒. การสื่อสารในโรงเรียน บางทีอาจจะมีการโต้แย้งถกเถียงกันระหว่างผู้ส่งสาร กับผู้รับสารได้ การโต้แย้งถกเถียงกันควรคำนึงถึงประโยชน์ที่จะได้รับทั้งสองผ่ายและควรเหตุผล ไม่พูดหยาบคายไม่ควรใช้อารมณ์เพราะจะนำไปสู่การทะเลาะวิวาทได้
๓. การสื่อสารในโรงเรียน อาจมีทั้งการสื่อสารระหว่างบุคคลหรือสื่อสารในกลุ่ม ซึ่งข้อเท็จจริงบางอย่างไม่ควรนำมาเผยแพร่ เพราะจะมีผลเสียหายสะท้อนกลับมา ถึงบางเรื่องจะเผยแพร่ได้ก็ควรคำนึงเสมอว่าไม่ควรเอาเรื่องไปพูดให้บิดเบือนจากความเป็นจริง
๔. ควรระมัดระวังท่าทาง การพูดที่ใช้ติดต่อสื่อสารกัน เพราะในโรงเรียนเป็นที่ที่ทุคลสามารถเข้ามาเพื่อติดต่อธุระบางอย่างได้เช่นผู้ปกครองเข้มารับบุตร ซึ่งในการสื่อสารกันระหว่างเพื่อนบางคำอาจจะดูไม่หยาบคาย แต่ในสายตาของคนภายนอกอาจจะเห็นว่าเป็นการกระทำที่ไม่ดี และอาจทำให้เสียภาพลักษณ์ของโรงเรียนไป
๕. บุคคลที่ทำงานภายในโรงเรียน เช่น นักการ ครู หรือผูบริหารจำเป็นต้องมีการสื่อสารซึ่งกันและกัน จึงควรให้เกียรติซึ่งกันและกัน ซื่อสัตย์ต่อกัน ไว้วางใจกัน และเคารพผู้ที่อาวุโสกว่า จะช่วยให้การสื่อสารเป็นไปอย่างราบรื่น
การสื่อสารในวงสังคมทั่วไป
๑. คำทักทาย ควรใช้คำทักทายที่เหมาะสมสุภาพ และควรศึกษาประเพณีแต่ละท้องถิ่นด้วย เพราะการทักทายของแต่ละท้องถิ่นนั้นมีทำเนียมการทักทายที่ไม่เหมือนกัน
๒. ในบางโอกาส จะมีการสื่อสารเพื่อการแสดงความยินดี หรือแสดงความเสียใจ ซึ่งมักจะกระทำกันด้วยวาจา
๓. การสื่อสารในวงสังคมนั้น จะมีการติดต่อกับบุคคลที่เราไม่รู้จักการพูดด้วยต้องใช้คำสุภาพตามสมควร และต้องพูดตรงประเด็น
๔. ในการคบหากับชาวต่างชาติ เราก็ควรจะศึกษามารยาท และประเพณีที่สำคัญๆของกันและกัน แต่ก็ควรระลึกไว้ว่าชาวต่างประเทศจำนวนมากรู้ภาษาไทย จึงควรระวังการใช้ถ้อยคำที่สุภาพ
สร้าง: 29 พฤศจิกายน 2552 11:53 แก้ไข: 29 พฤศ
เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2522 โรงเรียนได้โอนมาขึ้นตรงต่อสำนักงานการประถมศึกษา อำเภอโพนพิสัย สำนักงานการประถมศึกษาจังหวัดหนองคาย โดยมีนายศักดิ์สิทธิ์ น้อยตำแย รักษาการในตำแหน่งครูใหญ่ มีครูยืมตัวมาช่วยราชการ 3 คน จากโรงเรียนบ้านคำปะกั้ง,โรงเรียนบ้านโนนสะอาดและโรงเรียนบ้านปัก
ต่อมานายศักดิ์สิทธิ์ น้อยตำแย ได้ไปดำรงตำแหน่งครูใหญ่ ที่โรงเรียนบ้านโนนสะอาด สำนักงานประประถมศึกษาจังหวัดหนองคาย จึงได้แต่งแต่งตั้งให้นายวันชัย ศรีสม มาดำรงตำแหน่งครูใหญ่แทน
ในปีงบประมาณ 2527 โรงเรียนได้รับงบประมาณเพื่อสร้างอาคารเรียน แบบ สปช.105/26 จำนวน 1 หลัง และบ้านพักครู แบบ สปช.301/26 จำนวน 1 หลัง และในปีงบประมาณ 2529 ได้งบประมาณเพื่อก่อสร้างอาคารเรียน แบบ สปช.102/26 จำนวน 1 หลัง ส้วมแบบ สปช.601/26 จำนวน 1 หลัง 2 ที่นั่ง
วันที่ 6 พฤศจิกายน 2530 นายวันชัย ศรีสม ได้ย้ายไปดำรงตำแหน่งครูใหญ่โรงเรียนบ้านคำจำปา จึงแต่งตั้งให้นายคูณ โคตะมี รักษาการในตำแหน่งครูใหญ่แทน
เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2551 นายทองคำ ปาปะโข ได้มาดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียน และต่อมาวันที่ 15 ธันวาคม 2553 ได้มีนายสถิตย์ ภูชาดึก มาดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนจนถึงปัจจุบัน
ประวัติโรงเรียนบ้านคำเจริญ
โรงเรียนบ้านคำเจริญ ก่อตั้งเมื่อวันที่ 29 กันยายน 2519 โดยกองกำกับตำรวจตระเวนชายแดนเขต 4โดยมี จ.ส.ต. น้อม ไพรสณฑ์ เป็นผู้เริ่มก่อสร้าง มีนักเรียนเปิดทำการสอนครั้งแรก 31 คนโดยมีครูจากกองกำกับตำรวจตระเวนชายแดนเขต 4 มาทำการสอน โดยชาวบ้านได้ปลูกเพิงหญ้าเพื่อใช้เป็นอาคารเรียน ต่อมาคุณชวลิต รุ่งแสงพร้อมคณะได้บริจาคเงินห้kหมื่นบาท เพื่อก่อสร้างอาคารเรียน เป็นอาคารไม้และสร้างเสร็จเมื่อวันที่ 20กันยายน 2521
เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2522 โรงเรียนได้โอนมาขึ้นตรงต่อสำนักงานการประถมศึกษา อำเภอโพนพิสัย สำนักงานการประถมศึกษาจังหวัดหนองคาย โดยมีนาย
ต่อมานาย
ในปีงบประมาณ 2527 โรงเรียนได้รับงบประมาณเพื่อสร้างอาคารเรียน แบบ สปช.105/26 จำนวน 1 หลัง และบ้านพักครู แบบ สปช.301/26 จำนวน 1 หลัง และในปีงบประมาณ 2529 ได้งบประมาณเพื่อก่อสร้างอาคารเรียน แบบ สปช.102/26 จำนวน 1 หลัง ส้วมแบบ สปช.601/26 จำนวน 1 หลัง 2 ที่นั่ง
วันที่ 6 พฤศจิกายน 2530 นาย
ต่อมาวันที่ 20 มิถุนายน 2531 นายพิบูลย์ เหง้าสุวรรณ ได้มาดำรงตำแหน่งครูใหญ่แทนตำแหน่งที่ว่าง และได้ขอปรับตำแหน่งเป็นอาจารย์ใหญ่ เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2536 จากนั้นได้ขอปรับตำแหน่งเป็นตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียน ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2541 เป็นต้นมา
เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2551 นาย
ข้อมูลทั่วไป
โรงเรียนบ้านคำเจริญ ตั้งอยู่เลขที่ 140 หมู่ 3 บ้านคำเจริญ ตำบลบ้านโพธิ์ อำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย สังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การประถมศึกษาหนองคาย เขต 2
เปิดทำการสอนตั้งแต่ระดับอนุบาลจนถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีเขตพื้นที่บริการ 1 หมู่บ้าน ได้แก่ หมู่ 3 บ้านคำเจริญ
สีประจำโรงเรียน คือ สีแดงและสีขาว
ปรัชญาประจำโรงเรียน คือ สิกขา กาโม โหติ ผู้ใฝ่ในการศึกษา คือ ผู้เจริญ
ในปีการศึกษา 2553 มีจำนวนนักเรียนทั้งสิ้น 123 คน ผู้บริหาร 1 คน และครูจำนวน 7 คน ครูอัตราจ้าง 1 คน ลูกจ้างประจำ 1 คน
วิสัยทัศน์
มีความรู้คู่คุณธรรม ก้าวนำวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รักษ์สิ่งแวดล้อมและวัฒนธรรมท้องถิ่น
กลยุทธ์
1. คุณธรรมนำความรู้ น้อมนำเศรษฐกิจพอเพียงสู่การปฏิบัติ
2. ขยายโอกาสทางการศึกษาขั้นพื้นฐานของประชากรวัยเรียนอย่างกว้างขวางและทั่วถึง
3. พัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการศึกษาทุกระดับ
4. กระจายอำนาจและส่งเสริมความเข้มแข็งให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาและสถานศึกษา
5. ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของผู้ปกครอง ชุมชน ภาคเอกชนและท้องถิ่นในการจัดการศึกษา
พันธกิจ
1. จัดการเรียนรู้ให้สอดคล้องกับวัยและธรรมชาติของผู้เรียน
2. พัฒนาผู้เรียนให้สามารถเรียนรู้ได้เต็มศักยภาพ คำนึงถึงความแตกต่างของผู้เรียน
3. จัดการเรียนรู้ให้กับเด็กพิการเรียนร่วม
4. ปรับปรุงและพัฒนาหลักสูตรอย่างต่อเนื่องเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้เรียนและท้องถิ่น
5. จัดกิจกรรมส่งเสรมคุณธรรม จริยธรรมให้เหมาะสมกับผู้เรียน
6. ร่วมกับชุมชนในการจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมประเพณีและวัฒนธรรมท้องถิ่น
7. ประสานความร่วมมือกับชุมชนในการจัดบริการการศึกษาในทุกระดับการศึกษา
8. พัฒนาบุคลากรสู่มาตรฐานวิชาชีพ
เป้าประสงค์
1. นักเรียนระดับก่อนประถมศึกษาได้รับการเตรียมความพร้อมทุกคน
2. นักเรียนมีคุณภาพตามเกณฑ์มาตรฐานครบทุกสาระการเรียนรู้
3. นักเรียนทุกคนมีคุณธรรม จริยธรรม ศรัทธาในวัฒนธรรมท้องถิ่น ดำรงชีวิตอยู่ในสังคมอย่างมีความสุข
ข้อมูลสิ่งก่อสร้าง
1. อาคารเรียนแบบ สปช. 102/26 สร้างปีงบประมาณ 2529 ใช้งบประมาณจากหน่วยงานต้นสังกัด 560,000 บาท สภาพอาคาร พอใช้
2. อาคารเรียนแบบ สปช. 105/26 สร้างปีงบประมาณ 2527 ใช้งบประมาณจากหน่วยงานต้นสังกัด 840,000 บาท สภาพอาคาร พอใช้
3. อาคารอเนกประสงค์ แบบ สปช. 202/26 สร้างปีงบประมาณ 2526 ใช้งบประมาณจากหน่วยงานต้นสังกัด 824,000 บาท สภาพอาคาร พอใช้
4. อาคารอเนกประสงค์ แบบ สปช. 203/26 สร้างปีงบประมาณ 2526 ใช้งบประมาณจากหน่วยงานต้นสังกัด 430,000 บาท สภาพอาคาร พอใช้
5. อาคารบ้านพักครู แบบ สปช. 301/26 สร้างปีงบประมาณ 2527 ใช้งบประมาณจากหน่วยงานต้นสังกัด 150,000 บาท สภาพอาคาร พอใช้
6. ส้วมแบบ สปช. 601/26 จำนวน 2 ที่นั่ง สร้างปีงบประมาณ 2531 ใช้งบประมาณจากหน่วยงานต้นสังกัด 22,000 บาท สภาพอาคาร พอใช้
7. ส้วมแบบ สปช. 601/26 จำนวน 4 ที่นั่ง สร้างปีงบประมาณ 2547 ใช้งบประมาณจากหน่วยงานต้นสังกัด 92,000 บาท สภาพอาคาร ดี
8. ถังเก็บน้ำ ฝ.33 สร้างปีงบประมาณ 2529 ใช้งบประมาณจากหน่วยงานต้นสังกัด 35,000 บาท สภาพ พอใช้
9. ที่ราชพัสดุ ได้รับปีงบประมาณ 2519 จำนวนพื้นที่ทั้งหมด13 ไร่ 16 ตารางวา
2. อาคารเรียนแบบ สปช. 105/26 สร้างปีงบประมาณ 2527 ใช้งบประมาณจากหน่วยงานต้นสังกัด 840,000 บาท สภาพอาคาร พอใช้
3. อาคารอเนกประสงค์ แบบ สปช. 202/26 สร้างปีงบประมาณ 2526 ใช้งบประมาณจากหน่วยงานต้นสังกัด 824,000 บาท สภาพอาคาร พอใช้
4. อาคารอเนกประสงค์ แบบ สปช. 203/26 สร้างปีงบประมาณ 2526 ใช้งบประมาณจากหน่วยงานต้นสังกัด 430,000 บาท สภาพอาคาร พอใช้
5. อาคารบ้านพักครู แบบ สปช. 301/26 สร้างปีงบประมาณ 2527 ใช้งบประมาณจากหน่วยงานต้นสังกัด 150,000 บาท สภาพอาคาร พอใช้
6. ส้วมแบบ สปช. 601/26 จำนวน 2 ที่นั่ง สร้างปีงบประมาณ 2531 ใช้งบประมาณจากหน่วยงานต้นสังกัด 22,000 บาท สภาพอาคาร พอใช้
7. ส้วมแบบ สปช. 601/26 จำนวน 4 ที่นั่ง สร้างปีงบประมาณ 2547 ใช้งบประมาณจากหน่วยงานต้นสังกัด 92,000 บาท สภาพอาคาร ดี
8. ถังเก็บน้ำ ฝ.33 สร้างปีงบประมาณ 2529 ใช้งบประมาณจากหน่วยงานต้นสังกัด 35,000 บาท สภาพ พอใช้
9. ที่ราชพัสดุ ได้รับปีงบประมาณ 2519 จำนวนพื้นที่ทั้งหมด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น